สารคดีส่องโลก

“ปลาเวลส์” หรือ “ปลาดุกเวลส์” (Wels Catfish) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Silurus glanis เป็นปลาน้ำจืดขนาดใหญ่ชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาเนื้ออ่อน (Siluridae) เป็นปลาขนาดใหญ่ที่กระจายทางตอนกลาง ตอนใต้ และตะวันออกของทวีปยุโรป ไปจนถึงแถบเอเชียกลางด้วย . เป็นหนึ่งในปลาน้ำจืดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีความยาวทั้งตัวได้ถึง 3 เมตร และหนักได้เกือบ 200 กิโลกรัมเลยทีเดียว ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบจะมีขนาดประมาณ 1.3 ถึง 1.6 เมตร โดยมีน้ำหนักตัวประมาณ 15 …

“หมึกสายวงน้ำเงิน” หรือ “หมึกบลูริง” (Blue-ringed octopus) เป็นหมึกชนิดหนึ่งในวงศ์ Octopodidae มีชื่อสกุลว่า Hapalochlaena สามารถพบได้ในมหาสมุทรแปซิฟิก และมหาสมุทรอินเดีย รวมไปถึงทะเลญี่ปุ่น และออสเตรเลียด้วย เป็นหมึกขนาดเล็กชนิดหนึ่ง ปัจจุบันมีการค้นพบแล้ว 4 สายพันธุ์ ได้แก่ “หมึกบลูริงใหญ่” (Hapalochlaena lunulata) “หมึกบลูริงเล็ก” หรือ “หมึกบลูริงทางใต้” (Hapalochlaena maculosa) “หมึกบลูไลน์” หรือ “หมึกเส้นน้ำเงิน” (Hapalochlaena …

เราคงเคยได้ยินเรื่องราวของนิทาน หรือเพลงพื้นบ้านที่เกี่ยวกับนกกาเหว่า ที่นำไข่ของตัวเองไปฝากไว้ให้นกชนิดอื่นฟักไข่ให้กันอยู่แล้ว แต่คราวนี้มันไม่ใช่นกกาเหว่าหนะสิ แต่เป็นนกฮูก ผู้นอนกกไข่ของเจ้าเป็ดตัวจิ๋วนี้ จนออกมาจากไข่เลยนั่นเอง เรื่องราวสุดน่ารักของพวกมันนี้ เกิดขึ้นในสวนหลังบ้านของ “ลอรี วูล์ฟ” (Laurie Wolf) ในรัฐฟลอริดา (Florida) สหรัฐอเมริกา (USA) เธอเป็นช่างภาพผู้ที่รักการถ่ายภาพสัตว์ป่าในธรรมชาติ โดยหลังบ้านของเธอมีการตั้งบ้านนกหลังเล็ก ๆ ไว้หลายหลังสำหรับให้เหล่าสัตว์ป่าเข้ามาพักอาศัยนั่นเอง ก่อนหน้านี้เธอได้เห็นแม่เป็ดวู๊ด (Wood Duck) อยู่บริเวณบ้านนกบางหลังในบริเวณดังกล่าว โดยเธอคาดว่า มันน่าจะกำลังหาที่วางไข่ แต่หลังจากนั้นไม่นานนักเธอก็เห็นนกฮูกตัวหนึ่งบุกเข้ามายึดบ้านนกหลังนั้นเป็นที่อยู่อาศัยแทน . มันคือ “นกฮูกอีสเทิร์น สครีช” (Eastern Screech Owl) ซึ่งเป็นนกฮูกที่สามารถพบได้ทั่วไปในรัฐฟลอริดาอยู่แล้ว แต่หลังจากนั้นผ่านไปประมาณ 3 ถึง 4 สัปดาห์ เธอก็ได้สังเกตเห็นความผิดปกติที่บ้านนกหลังหนึ่งที่จำได้ว่านกฮูกนั้นได้เข้ามาอยู่อาศัย โดยเธอมองออกไปจากทางหลังบ้านเห็นเหมือนกับนกตัวเล็ก …

“หมาน้ำ” หรือ “แอกโซลอเติล” (Axolotl) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Ambystoma mexicanum เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำชนิดหนึ่ง ในวงศ์ Ambystomatidae ซึ่งอยู่ในอันดับซาลาแมนเดอร์ (Caudata) มีถิ่นกำเนิดตามธรรมชาติอยู่ในทะเลสาบ และพื้นที่ชุ่มน้ำ ภายในเมืองเม็กซิโกซิตี (Mexico City) ประเทศเม็กซิโก (Mexico) เพียงที่เดียวเท่านั้น . . . เป็นสัตว์ที่แตกต่างจากซาลาแมนเดอร์ และสัตว์เลื้อยคลานชนิดอื่น ๆ เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอวัยวะรอบคอของมัน ซึ่งเป็นเหงือกสีแดง ที่ช่วยในการหายใจของพวกมัน โดยปกติแล้ว อวัยวะส่วนนี้จะหายไป เมื่อโตเต็มวัยแล้วนั่นเอง แต่เจ้าแอกโซลอเติลนั้น จะมีอยู่ตลอดชีวิตเลยนั่นเอง ซึ่งก็ได้กลายเป็นดั่งจุดเด่นหลักของมันไปเลย . . มีขนาดตัวใหญ่ได้ถึง …

“ไก่ป่าเกรทเทอร์เซจ” (Greater sage-grouse) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Centrocercus urophasianus เป็นสัตว์ปีกขนาดใหญ่จำพวกไก่ป่าชนิดหนึ่ง ในวงศ์ไก่ฟ้าและนกกระทา (Phasianidae) . โดยเป็นสัตว์ที่มีถิ่นอาศัยอยู่ในอเมริกาเหนือ โดยมีพบได้ตั้งแต่เขตทุ่งหญ้าเซจบรัช (Sagebrush) ทางตะวันตกของสหรัฐอเมริกา (USA) และทางใต้ของรัฐแอลเบอร์ตา (Alberta) และรัฐซัสแคตเชวัน (Saskatchewan) ในแคนาดา (Canada) . มันเป็นนกประจำถิ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เดิมตลอดทั้งปี แต่ในช่วงฤดูหนาว อาจจะมีการอพยพลงมาในเขตที่อุ่นขึ้น พวกมันมักจะอยู่อาศัยบนพื้นดินในทุ่งโล่งทั้งสร้างรัง ผสมพันธุ์ และหาอาหาร โดยทั่วไปแล้วไก่ป่าเหล่านี้จะมีขนาดตัวที่ใหญ่มาก ซึ่งเป็นไก่ป่าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนืออีกด้วย …

ถ้าพูดถึงเสือ หรือสิงโตแล้วละก็ ทุกคนน่าจะนึกถึงสัตว์บก 4 ขาตัวใหญ่ผู้เป็นสุดยอดนักล่าแห่งป่า หรือทุ่งหญ้าอันกว้างใหญ่ แต่ถ้าเป็นลูกผสมระหว่างเสือ และสิงโต ผู้เป็นสัตว์ที่มีสายพันธุ์ใกล้เคียงกันละก็ อาจจะทำให้เกิดเจ้าป่านักล่าผู้แข็งแกร่งก็เป็นได้ . เดิมที่แล้วสิงโต และเสือหลาย ๆ ชนิดนั้นเป็นสัตว์ที่อยู่ในสกุล (Panthera) เดียวกันอยู่แล้ว จึงทำให้พวกมันสามารถให้กำเนิดเหล่าลูก ๆ ที่มาจากพ่อแม่คนละสายพันธุ์กันได้ เช่นเดียวกับสุนัขที่เป็นสัตว์เลี้ยง และมีความหลากหลายทางสายพันธุ์ด้วยเช่นกัน เหล่าลูก ๆ ของพวกมันจะมีชื่อเรียกที่แตกต่างกันออกไปด้วย เช่น “ไทกอน” (Tigon) คือ ลูกของเสือตัวผู้ กับสิงโตตัวเมีย และ “ไลเกอร์” (Liger) คือ ลูกของสิงโตตัวผู้กับเสือตัวเมียนั่นเอง ซึ่งไลเกอร์นั้นจะขึ้นชื่อเรื่องขนาดตัวที่ใหญ่โตยิ่งกว่าเสือหรือสิงโตทั่ว ๆ ไป จริง …

“นากยักษ์” หรือ “นากแม่น้ำยักษ์” (Giant Otter ,Giant River Otter) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Pteronura brasiliensis เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำพวกนากชนิดหนึ่ง ในวงศ์เพียงพอน (Mustelidae) . เป็นสัตว์ที่พบได้ในพื้นที่อเมริกาใต้ ภายในบริเวณพื้นที่ชุ่มน้ำ หรือป่าใกล้แหล่งน้ำอย่าง ป่าฝนตามแม่น้ำแอมะซอน (Amazon River) และ ปังตานัล (Pantanal) มันถูกจัดเป็นนากที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีลำตัวยาวตั้งแต่ 1.5 ถึง 1.7 เมตร …

“เห่าช้าง” (Roughneck monitor lizard) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Varanus rudicollis เป็นสัตว์เลื้อยคลานในวงศ์เหี้ย (Varanidae) สามารถพบในประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทยของเราด้วย . เห่าช้างมีขนาดตัวเล็กกว่าเหี้ย หรือตัวเงินตัวทอง (Varanus salvator) ซึ่งมีลำตัวสีดำเข้ม มีลวดลายแนวขวางตลอดลำตัว มีเกล็ดสั้น บริเวณเกล็ดบนคอมีขนาดใหญ่ คล้ายหนามทุเรียน และเกล็ดส่วนคอจะเป็นลักษณะเกล็ดย้อน ปากมีลักษณะเรียวแหลม . มันเป็นเหี้ยที่มีขนาดเล็กมาก โตเต็มที่มีขนาดประมาณ 90 ถึง 150 เซนติเมตร มีน้ำหนักตัวน้อยกว่าชนิดอื่น ๆ ด้วย สามารถมีอายุได้ราว 12 ถึง 20 ปี . …

“จิ้งเหลน Shingleback” (Shingleback Skink) มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Tiliqua rugosa เป็นจิ้งเหลนสายพันธุ์หนึ่งในตระกูลเดียวกับบูลทั้งค์ หรือจิ้งเหลนลิ้นน้ำเงิน (Blue-tongued skink) ซึ่งสามารถพบได้ในออสเตรเลียเท่านั้น ซึ่งมันมีสายพันธุ์ลงมาอีก 4 สายพันธุ์ ฝั่งตะวันตก 3 สายพันธุ์ และฝั่งตะวันออก 1 สายพันธุ์ . . นอกจากนี้มันมักจะมีชื่อเรียกที่หลากหลายออกไปตามแต่ละพื้นที่อีกด้วย เช่น “จิ้งเหลนหางสั้น” “จิ้งเหลนสองหัว” หรือ “จิ้งเหลนหางกุด” เป็นต้น . จิ้งเหลนชนิดนี้ จะมีผิวหนังซึ่งเป็นเกราะป้องกันร่างกายที่หนา และมีหลากสีตั้งแต่สีน้ำตาลเข้ม ไปจนถึงสีครีมเลย มีลำตัวที่สั้น แต่กว้าง หางสั้น …

นก “Duster Budgie” เป็นนกหงส์หยกชนิดหนึ่งที่เรารู้จักกันดี ในฐานะนกปากขอขนาดเล็ก-กลางที่มีความสวยงามที่กลายเป็นสัตว์เลี้ยงยอดนิยมของเหล่าคนรักนกนั่นเอง แต่เจ้า Duster Budgie นั้นแตกต่างออกไป . . โดยทั่วไปแล้วนกหงส์หยกในธรรมชาติจะสามารถพบได้ในทุ่งหญ้าหรือป่าในออสเตรเลีย (Australia) ซึ่งพวกมันมักมีสีเขียว หรือเหลือง แต่สำหรับนกหงส์หยกที่ถูกเลี้ยงและเพาะพันธุ์ ก็จะทำให้มีสีอื่นด้วยเช่นกัน เช่นสีฟ้า และสีขาว ซึ่งบางตัวอาจจะมีสีที่หายากซะจนเป็นความสนใจของเหล่าคนรักนกไปเลย . แต่ในการขยายพันธุ์นั้นยังมีการเกิดของนกที่เกิดได้ยากมากอีกด้วย นั่นก็คือนก Duster Budgie นั่นเอง มันคือ นกหงส์หยกที่มีการกลายพันธุ์ที่ยีนด้อย ซึ่งได้รับการส่งต่อทางพันธุกรรมมาจากพ่อและแม่ ซึ่งจะไม่สามารถแยกแยะได้เลยในช่วงแรกเกิด จนกว่าพวกมันจะเริ่มเจริญเติบโต และขนยาวขึ้น ซึ่งขนเหล่านั้นจะแสดงถึงความแตกต่างระหว่างนกหงส์หยกทั่วไป กับเจ้านกกลายพันธุ์ชนิดนี้ . มันจะมีขนทุกส่วนของร่างกาย ขนหาง รวมไปถึงขนปีกที่ใช้ในการบิน ยาวขึ้นเรื่อย ๆ และมีลักษณะม้วนงอ หรืออาจจะหยิก ซึ่งยาวขึ้นซะจนปกคลุมร่างกายแตกต่างกับนกตัวอื่น ๆ กลายเป็นนกขนยาวสลวยที่โดดเด่นกว่านกทั่วไป . …