“บอม ฑิชากร เปล่งพานิช” เล่าชีวิตถูกเปรียบพ่อแม่

กรณีล่าสุดมาจาก “บอม-ฑิชากร เปล่งพานิช” นักเดินทางที่ไปมาแล้ว 80 ประเทศทั่วโลก และเป็นลูกสาวคนเดียวของสองนกนักแสดงชื่อดัง “ฉัตรชัย-สินจัย เปล่งพานิช”

.

โดยใครๆ ต่างก็อิจฉามีคุณพ่อคุณแม่ที่มีชื่อเสียง แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเจอกับเรื่องราวของการถูกเปรียบเทียบจากสังคม มาตรฐานความสวยที่ถูกคาดหวัง และคุณค่าในตัวเองที่ถูกเปรียบเทียบมาตลอดทั้งชีวิต กับพ่อแม่

.

‘บอม’ เผยว่า เจอการเปรียบเทียบมาตลอดทั้งชีวิต ทำไมไม่สวยเหมือนแม่ ทำไมไม่ผอมแบบคนนี้ เขาพูดเพราะว่าเขาหวังดี แต่ว่ามันคือการเปรียบเทียบ แล้วความรู้สึกของเราล่ะ ทำไมเราต้องไปวัดค่าของตัวเอง คุณต้องผอมเท่านี้ คุณต้องสวยเท่านี้

.

.

ใช้ชีวิตโตขึ้นมากับคำถามวว่า ทำไมคนเราทักเรื่องอื่นไม่ได้เหรอ เพราะที่บ้านไม่เคยพูดว่าต้องสวยแบบนี้นะ แต่ว่าคนรอบข้างจะเป็นคนที่กดดันว่าทำไมไม่ทำผมทรงนี้ล่ะ ไม่แต่งตัวแบบนี้ล่ะ ทำไมๆ มันมี Standard ของวงการที่มันอยู่บนไหล่เรา เหมือนเป็นน้ำหนักที่มันกดเราอยู่ เราต้องแบกความกดดันนี้ไว้ตลอด

.

 

แต่พอ ‘บอม’ โตขึ้นมีโอกาสได้ไปเรียนเมืองนอก เรียน Drama แล้วชอบมาก หรือว่าเราอยากแสดงน่ะ แต่คิดว่ามันทนไม่ไหว ทนกับความกดดันนี้ไม่ไหว มันเป็นแรงกดดันที่เราให้กับตัวเอง มากกว่าที่คนอื่นให้เรา แต่คือใช้เวลา 30 ปีนะกว่าจะคิดได้

.

และในวันนี้ ‘บอม’ มั่นใจกับตัวเองมากกว่า 20 ปีที่แล้ว เพราะถ้าข้างในรู้สึกดี ข้างนอกก็จะรู้สึกดี มันเริ่มจากที่ บอม มากิน Plant-based (อาหารที่ทำจากพืช) ประมาณ 90% เลยรู้สึกว่าข้างในดีขึ้น พอข้างในดีขึ้นมันส่งผลกับสมอง ความคิด และสิ่งที่ทำได้ก็คือจริงจังและจริงใจกับความรู้สึกตัวเองให้มากที่สุด

อีกทั้งเล่าว่า ความสุขของ ‘บอม’ คือการได้เดินทาง แล้วพอวันหนึ่งมันกลายเป็นงานเลยเกิดปัญหาขึ้นมา เลยรู้สึกว่าถ้าเราไม่สามารถทำสิ่งที่ตัวเองรักที่สุดได้แล้ว ยังไงก็ต้องลาออก เพราะพยายามที่จะแบบว่าไม่อยากเกลียดในสิ่งที่ตัวเองรัก ก็หาสิ่งที่ตัวเองอยากทำต่อไป

.

ทุกวันนี้ก็จัดการกับความคิด จิตใจ ความมั่นใจ ของตัวเองแบบLet it go พยายามทำอะไรแบบที่ให้ตัวเองมีความสุข บอมเป็นคนใช้เวลากับตัวเองเยอะมาก พยายามบริหารจิตใจตัวเองให้มากที่สุด ด้วยการจริงใจกับตัวเอง เพราะคนเดียวที่เราจะต้องให้ความสำคัญและให้ค่าคือตัวเราเอง